วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

น้ำมันปลาที่ดีต้องเป็นอย่างไร?

น้ำมันปลาที่ดี คือ น้ำมันปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลขั้วโลกเหนือซึ่งมีน้ำทะเลเย็นจัดจึงอุดมไปด้วย Omega 3 
หรือ Alpha-Linolenic acid และมีบางยี่ห้อผสมกับ น้ำมันมะกอกๆ นั้นอุดมไปด้วย Omega 9 หรือ Oleic acid
จึงช่วยเพิ่มคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น

         น้ำมันปลาที่ดี คือ ไขมันชนิดไม่อิ่มตัว มีกรดไขมันจำเป็นๆ น้ำมันที่ให้พลังงานกับร่าง
กายคล้ายกับไขมันทั่วๆไป แต่ยังมีคุณภาพพิเศษที่ทำให้สุขภาพของเราดีเยี่ยมได้ด้วย คือ การป้อง
กันและรักษาอาการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจ เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ในปัจจุบัน

อาการการตีบตันของหลอดเลือด จะประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ 
1. ความอ้วน 2. ความดันสูง 3. ไขมัน ในเลือดสูง 4. เบาหวาน 5. ความเครียด

          ถ้าน้ำมันปลา แก้ปัญหาของโรคเหล่านี้ได้จริง ทำไมคนไทยยังป่วยด้วยโรคเหล่านี้อีก? ทั้งๆ ที่ภายในประเทศเราก็มีน้ำมันปลาวางขายกันอยู่มากมาย ปัญหาคือ น้ำมันปลาที่วางขายอยู่ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่ใช่น้ำมันปลาทะเลขั้วโลก แต่เป็นน้ำมันปลาทะเลในเขตอบอุ่นทั่วไป จึงไม่มีกรดไขมัน 
โอเมก้า 3-9, EPA และ DHA มากพอที่จะไปจัดการ LDL-Cholesterol และ Triglycerides ที่สะสมอยู่ในหลอดเลือดได้ทันต่อโรค

การพิสูจน์ที่ทำได้โดยง่าย ว่าน้ำมันปลาที่คุณซื้อมานั้น มีกรดไขมัน โอเมก้า 3-9, EPA และ DHA มากพอหรือไม่? ทำได้โดยการตัดซอฟท์เจล ของน้ำมันปลาแล้วหยดมันลงบนกล่องโฟมใส่อาหาร ถ้าสามารถทำให้กล่องโฟมนั้นละลายจนทะลุได้ ก็ถือว่าคุณภาพดีมากครับ

หลักการและหน้าที่ของ Omega 3 และ Omega 9 เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะถูกเปลี่ยนเป็น EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexacnoic Acid) EPA จะไปช่วยลด LDL-Cholesterol และ Triglycerides ส่วนเกินที่อยู่ในเลือด และที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดออกไปเผาผลาญที่ตับ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มระดับ HDL-Cholesterol) ในเลือดให้สูงขึ้น และ EPA นั้นร่างกายเรายังนำไปสร้างอีก 2 อย่างคือ 1. Prosta glanding-3 ซึ่งทำให้เกร็ดไม่เกาะกัน 2. Tromboxan-3 นั้นช่วยลดการจับเกาะกันของเกร็ดเลือด สรุปโดยรวม คือ ไม่ทำให้เลือดหนืดข้นหรือรวมกันเป็นลิ่มเลือด เลือดเหลวไม่แข็งตัวง่าย ทำให้เลือดไหลหมุนเวียนได้สะดวก ส่วน DHA นั้นส่วนหนึ่งของเซลส์สมอง จึงเท่ากับช่วยบำรุงสมองไปในตัว สรุปว่า น้ำมันปลาขั้วโลกนั้นสามารถป้องกันและรักษาโรคดังต่อไปนี้ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือทำบอลลูน, โรคหลอดเลือดสมองตีบ (Stroke), อัมพฤกษ์ - อัมพาต (Paralysis) ในระยะเริ่มต้น, โรคเบาหวาน, ความดัน, ไขมันในเลือดสูง, มะเร็งปอด, ไมเกรน,  ไขข้ออักเสบ (รูมาตอยด์ หรือ เกาต์), และบรรเทาอาการของโรคสะเก็ดเงินได้ด้วย

อาการตีบตันของหลอดเลือดนั้นเกิดจากมีไขมันในเลือดสูง มีปัจจัยหลักดังนี้
1. ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) ในเลือดสูง
2. ระดับคลอเลสเตอรอลชนิดเลว (Low Density Lipoprotein Cholesterol หรือ LDL-Cholesterol) ในเลือดสูง
3. ระดับคลอเลสเตอรอลชนิดดี (High Density Lipoprotein Cholesterol หรือ HDL-Cholesterol) ในเลือดต่ำ

โรคหลอดเลือดสมองตีบ, สมองขาดเลือด (Stroke) จำเป็นต้องถึงเข้าถึงการรักษาภายใน 3 ชั่วโมง
หากผู้ป่วยยังสามารถรับทานอาหารได้ก็ให้รีบรับทานน้ำมันปลาคุณภาพดีๆ นั้นสัก 5 เม็ดเลยครับ


วิธีรับประทานๆ ครั้งละ 1-2 แคปซูล ก่อนหรือพร้อมอาหาร เช้า กลางวัน เย็น 

ข้อควรระวัง : ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ควรทานแต่น้อยหากแพ้อาหารทะเล ควรเก็บในที่แห้งและเย็น
ไม่ควรรับประทานน้ำมันปลาก่อนมีการผ่าตัด 3 สัปดาห์ เพราะน้ำมันปลาทำให้เลือดแข็งตัวยาก

การเลือกซื้อน้ำมันปลา นั้นให้ดูที่ฉลากครับ คือ 1 ซอฟท์เจล หนักกี่มิลลิกรัม
      ถ้าขนาดไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม น้ำหนักของซอฟท์เจลเองจะหนักอยู่ประมาณ 60-100 มิลลิกรัม
      ถ้าขนาดเกิน 1,000 มิลลิกรัม น้ำหนักของซอฟท์เจลเองจะหนักอยู่ประมาณ 100-120 มิลลิกรัม
รายละเอียดของกรดไขมันที่เป็นประโยชน์จริงๆ ว่ามีน้ำหนักเท่าไร ดังนี้     Omega-3 (Linolenic หรือ Alpha Linolenic Acid)  ?....มิลลิกรัม
     Omega-6 (Linoleic Acid)    ?....มิลลิกรัม
     Omega-9 (Oleic Acid)    ?....มิลลิกรัม
     EPA (Eicosapentaenoic Acid)   ?...มิลลิกรัม
     DHA (Docosahexacnoic Acid)   ?...มิลลิกรัม

     ให้นำน้ำหนักของกรดไขมันที่เป็นประโยชน์และน้ำหนักของซอฟท์เจลมารวมกันว่าได้เท่ากับน้ำหนักทั้งหมดของ 1 ซอฟท์เจล หรือไม่?
ถ้าไม่เท่ากันเป็นเพราะว่าการผลิตสินค้าของแต่ละบริษัทนั้นๆ ยังขาดเทคนิคและวิธีการที่ดีพอในการแยกกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ให้บริสุทธิ์นั่นเอง
ฉะนั้นถ้าคุณรับประทานเข้าไปก็จะได้รับไขมันที่ไม่เป็นประโยชน์ร่างกายเข้าไปด้วย
     อย่างไรก็ตามใน 1 ซอฟท์เจลควรมีน้ำหนักของกรดไขมันที่เป็นประโยชน์มากกว่า 350 มิลลิกรัม และเมื่อนำไปทดสอบหยดลงบนกล่องโฟมใส่อาหาร แล้วทิ้งไว้นานกว่า 1 ชั่วโมง กล่องโฟมควรจะมีรอยยุบตัวบ้าง ถ้าไม่มีก็แสดงว่า ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้นๆ โฆษณาสินค้าเกินจริง และเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ควรอุดหนุน
     การทานน้ำมันปลาหรืออาหารเสริมอื่นๆ เรายอมจ่ายมากกว่าเพื่อป้องกันโรค หรือรักษาโรคในบางกรณี เราไม่ควรเลือกที่ราคาถูก เพราะของถูกและดีไม่มีในโลก เอาเป็นว่าราคาสมเหตุผลดีกว่าครับ

อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Forever Living Product.

เพื่อบรรเทาอาการของโรคร้าย เรื้อรัง เช่น มะเร็งต่างๆ,เบาหวาน, ความดันโลหิต, ไขมันในเลือด, โรคหัวใจ ฯลฯ ปรึกษาได้ครับ สุวรรณ 085-6856356